หน้าแรก
รู้จักเรา
บทความ
ติดต่อเรา
ค่าลดหย่อนภาษี
1.ทั่วไป
2.ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ
3.การออมและลงทุน
4.เงินบริจาค
5.รายการพิเศษ

ค่าลดหย่อนประกันบำนาญ

หัวข้อ :

เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ต้องไม่เกิน15%ของรายได้ และต้องไม่เกิน200,000บาท และในกรณีที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิประกันชีวิตแบบปกติ จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนในส่วนของเบี้ยประกันชีวิตปกติได้เพิ่มอีก รวมเป็นสิทธิลดหย่อนสูงสุดทั้งหมด300,000บาท

สำหรับค่าลดหย่อนประเภทอื่นๆสามารถศึกษาได้ที่ค่าลดหย่อน

หลักฐานที่ต้องใช้

  • ใบเสร็จหรือหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกัน

เงื่อนไข

การที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญได้นั้น จะต้องตรงตามเกณฑ์ต่อไปนี้ครบทุกข้อ

  • ต้องทำประกันชีวิตแบบบำนาญกับบริษัทประกันชีวิตที่ประกอบกิจการในประเทศไทย เท่านั้น
  • ประกันชีวิตแบบบำนาญต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่10ปี ขึ้นไป
  • ประกันชีวิตแบบบำนาญต้องบังคับให้เราจ่ายเบี้ยประกันเป็นรายงวดอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ(เพราะกฎหมายมีวัตถุประสงค์ให้เก็บออมเงินเพื่อใช้หลังเกษียณ)
  • ประกันชีวิตแบบบำนาญต้องมีการจ่ายคืนผลประโยชน์(เงินบำนาญ) ให้แก่ผู้ทำประกันหลังจากอายุ55ปีขึ้นไป(ห้ามมีการจ่ายปันผลหรือเงินคืนระหว่างทางก่อนอายุครบ55ปี)

เงื่อนไขเพิ่มเติม

สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเบี้ยประกันที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกินเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  • ไม่เกิน15%ของรายได้ สูงสุดไม่เกิน200,000บาท และ เมื่อรวมกับค่าลดหย่อนRMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กบข , กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ต้องไม่เกิน ฿500,000 ด้วย
  • ในกรณีที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิในส่วนของค่าลดหย่อนประกันชีวิตแบบปกติ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนในส่วนของเบี้ยประกันชีวิตได้เพิ่มเติมอีก100,000บาท(รวมเป็นใช้สิทธิได้ทั้งหมดไม่เกิน15% สูงสุดไม่เกิน300,000บาท)

แหล่งที่มา : ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 261) พ.ศ. 2558, ข้อ 2(61) กฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)