การลงทุน ประกันควบการลงทุน ประกันชีวิต/สุขภาพ ประกันวินาศภัย
กองทุนรวม Unit-linked CI Supercare ประกันรถยนต์
Health-linked
หน้าแรก
รู้จักเรา
บริการของเรา
บทความ
ติดต่อเรา
เข้าสู่ระบบ
ค่าลดหย่อนภาษี
1.ทั่วไป
2.ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ
3.การออมและลงทุน
4.เงินบริจาค
5.รายการพิเศษ

ช้อปช่วยชาติ

หัวข้อ :

โครงการช้อปช่วยชาติ หรือชื่อทางการของโครงการนี้คือ “ค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศ” กฎหมายได้ให้สิทธิให้สามารถนำมาลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุด15,000บาท โดยต้องเป็นการซื้อยางรถที่ผลิตในประเทศ หนังสือ(รวมถึง e-book) และสินค้า OTOP ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2561 – 15 มกราคม 2562

สำหรับค่าลดหย่อนประเภทอื่นๆสามารถศึกษาได้ที่ค่าลดหย่อน

หลักฐานที่ต้องใช้

กรณีซื้อยางรถยนต์ :

  • ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และข้อมูลของคุณ รวมถึงวันที่ รายการและจำนวนเงินด้วย และคูปองการยางแห่งประเทศไทยที่แถมมากับยางรถ (ยาง 1 เส้น ได้คูปอง 1 ใบ)

กรณีซื้อหนังสือ (รวมถึง e-book) :

  • ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป/ใบเสร็จรับเงินที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และข้อมูลของคุณ รวมถึงวันที่ รายการและจำนวนเงินด้วย
  • กรณีซื้อจากผู้ประกอบการที่ไม่จดทะเบียนภาษีมูลเพิ่ม(Vat) ใบเสร็จต้องระบุข้อมูลต่อไปนี้
    1.เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ขาย
    2.ชื่อหรือยี่ห้อของผู้ขาย
    3.เลขลำดับของเล่มและใบเสร็จรับเงิน
    4.วันเดือนปีที่ออกใบเสร็จรับเงิน
    5.ชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อ
    6.ชนิด ชื่อ จำนวน และราคาสินค้าที่ซื้อ
    7.จำนวนเงิน

กรณีซื้อสินค้า OTOP :

  • ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป/ใบเสร็จรับเงินที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และข้อมูลของคุณ รวมถึงวันที่ รายการและจำนวนเงินด้วย

เงื่อนไข

การที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการช้อปช่วยชาติ จะต้องตรงตามเกณฑ์ต่อไปนี้ครบทุกข้อ

  • สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน15,000บาท
  • ต้องเป็นการซื้อสินค้า/บริการที่เกิดขึ้นระหว่าง 15 ธันวาคม 2561 – 15 มกราคม 2562
  • ต้องเป็นการซื้อสินค้า 3 รายการ ได้แก่ ยางรถที่ผลิตในประเทศ หนังสือ(รวมถึง e-book) และ สินค้า OTOP เท่านั้น
  • กรณียางรถ ต้องเป็นยางรถที่ผลิตในประเทศเท่านั้น โดยจะเป็นยางรถยนต์ ยางรถจักรยาน หรือยางรถประเภทใดก็ได้ แต่ต้องเป็นยางมีคูปองจากการยางแห่งประเทศไทยแถมมากับยางด้วย (ยาง 1 เส้น ได้คูปอง 1 ใบ)
  • กรณีหนังสือ จะต้องซื้อจากร้านค้าในประเทศ เท่านั้น
  • กรณี e-book จะซื้อจากผู้จำหน่ายในประเทศ หรือ ต่างประเทศก็ได้
  • กรณีOTOP ต้องเป็นสินค้าโอท็อปที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว โดยจะเป็นสินค้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)หรือไม่ก็ได้

แหล่งที่มา : กฎกระทรวง ฉบับที่ 341 (พ.ศ. 2561), ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 333) พ.ศ. 2561