ค่าลดหย่อนภาษี
1.ทั่วไป▾
1.1ส่วนตัว
1.2คู่สมรส
1.3บุตร
1.4บิดามารดา
1.5ฝากครรภ์-คลอดบุตร
1.6อุปการะผู้พิการหรือทุพพลภาพ
1.7ดอกเบี้ยกู้ซื้อที่อยู่อาศัย
1.8ผู้สูงอายุและผู้พิการ
2.ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ▾
2.1เงินสะสมประกันสังคม
2.2เบี้ยประกันชีวิต
2.3เบี้ยประกันสุขภาพ
2.4เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
2.5เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
3.การออมและลงทุน▾
3.1กองทุนรวมเพื่อการออม(SSF)
3.2กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)
3.3กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
3.4กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
3.5กองทุนการออมแห่งชาติ
3.6เงินลงทุนธุรกิจStartup
4.เงินบริจาค▾
4.1เงินบริจาคทั่วไป
4.2เงินบริจาคเพื่อการศึกษา/โรงพยาบาลรัฐ/การกีฬา/การพัฒนาสังคม
4.3เงินบริจาคพรรคการเมือง
5.รายการพิเศษ▾
ค่าลดหย่อนเงินบริจาคการศึกษา/โรงพยาบาลรัฐ/การกีฬา/การพัฒนาสังคม
หัวข้อ :
เงินบริจาคเพื่อการศึกษา โรงพยาบาลรัฐ การกีฬา และการพัฒนาสังคม กฎหมายได้ให้สิทธิผู้บริจาคสามารถนำหลักฐานการบริจาคมาใช้เป็นค่าลดหย่อนได้2เท่าของจำนวนเงินที่บริจาคจริง ทั้งนี้ต้องไม่เกิน10%ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
สำหรับค่าลดหย่อนประเภทอื่นๆสามารถศึกษาได้ที่ค่าลดหย่อน
เงื่อนไขบริจาคเพื่อการศึกษา
การที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคเพื่อการศึกษา จะต้องตรงตามเกณฑ์ต่อไปนี้ครบทุกข้อ
- สามารถใช้ลดหย่อนได้2เท่าของที่บริจาคจริง แต่ต้องไม่เกิน10%ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย
- กรณีบริจาคเพื่อการศึกษาต้องเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับจัดหาหรือจัดสร้างอาคาร อาคารพร้อมที่ดิน หรือที่ดินให้แก่สถานศึกษาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการศึกษา จัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการศึกษา แบบเรียน ตำรา หนังสือทางวิชาการ สื่อ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา หรือ จัดหาครู อาจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษา หรือเป็นทุนการศึกษาการประดิษฐ์ การพัฒนา การค้นคว้า หรือการวิจัย สำหรับนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษาของสถานศึกษา ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ http://www.rd.go.th/publish/28654.0.html
เงื่อนไขบริจาคเพื่อโรงพยาบาลของรัฐ
การที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคเพื่อโรงพยาบาลของรัฐ จะต้องตรงตามเกณฑ์ต่อไปนี้ครบทุกข้อ
- สามารถใช้ลดหย่อนได้2เท่าของที่บริจาคจริง แต่ต้องไม่เกิน10%ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย
- กรณีบริจาคเพื่อโรงพยาบาลของรัฐ ต้องเป็นเป็นสถานพยาบาลตามเงื่อนไขต่อไปนี้
1. สถานพยาบาลของสถานศึกษาของรัฐ
2.สถานพยาบาลขององค์การมหาชน
3.สถานพยาบาลของรัฐวิสาหกิจ
4.สถานพยาบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
5.สถานพยาบาลของสภากาชาดไทย
6.สถานพยาบาลของหน่วยงานอื่นของรัฐ
เงื่อนไขบริจาคเพื่อการกีฬา หรือ การพัฒนาสังคม
การที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคเพื่อการกีฬา/การพัฒนาสังคม จะต้องตรงตามเกณฑ์ต่อไปนี้ครบทุกข้อ
- สามารถใช้ลดหย่อนได้2เท่าของที่บริจาคจริง แต่ต้องไม่เกิน10%ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย
- กรณีบริจาคเพื่อการกีฬา จะต้องเป็นการบริจาคเพื่อสมาคมกีฬาต่างๆ ที่อยู่ประเทศไทย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ http://download.rd.go.th/fileadmin/download/sportsociety_241256.pdf
- กรณีบริจาคเพื่อการพัฒนาสังคม จะแบ่งเป็นกรณีต่างๆต่อไปนี้
- เงินบริจาคให้แก่สถานศีกษาของทางราชการหรือองค์การของรัฐบาล โรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนเพื่อใช้ในการจัดหาหนังสือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมการอ่าน
- เงินบริจาคให้กองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่กระทรวงศึกษาจัดตั้งขึ้น
เงินบริจาคให้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดให้คนพิการได้รับสิทธิเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะตลอดจน สวัสดิการ และความช่วยเหลืออื่นจากรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ - เงินบริจาคให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
- เงินบริจาคให้โครงการฝึกอบรมอาชีพและการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู และสงเคราะห์เด็กและเยาวชนของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน หรือศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม
แหล่งที่มา : มาตรา 3(1) พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 663) พ.ศ. 2561, ข้อ 1(1) ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 222)